วันนี้จะพาทุกท่านมารู้จักเครื่องดนตรีไทยพื้นบ้านภาคเหนือ...เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ดีด..ก็จะมีเสียงไพเราะ..ไปดูกันได้เลย
ซึง
มีส่วนประกอบดังนี้
1. กะโหลก ทำด้วยไม้แก่นเนื้อแข็งชิ้นเดียว ติดต่อกับคันทวนมีลักษณะแบนเป็นทรงรี ขุดคว้านตอนที่เป็นกะโหลกให้เป็นโพรงมีไม้แผ่นบาง ตรงกลางเจาะรูกว้างพอประมาณเพื่อระบายเสียงที่ดีดให้ก้องกังวาน ( บางทีเจาะเป็นรูปหัวใจ ) ปิดด้านหน้าส่วนด้านหลังตัน
2. คันทวนทำด้วยไม้แก่นเนื้อแข็งชิ้นเดียวกับตัวกะโหลกโดยทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านหลังเกลาลบเหลี่ยมด้านหน้าเรียบเพื่อติดนม ตอนปลายผายด้านข้างออกก่อนถึงปลายคันทวนด้านหน้าเจาะเป็นร่องยาว 2 ร่องสำหรับสายผ่านไปพันผูกที่ปลายลูกบิด และด้านข้างเจาะรูกลมด้านละ 2 รูเพื่อสอดใส่ลูกบิด
3. ลูกบิด ทำด้วยไม้เนื้อแข็งลักษณะกลม เรียวด้านหัวใหญ่ขนาดมือจับพอดีตรงกลางกลึงเป็นลูกแก้ว ตอนปลายเรียวเล็กเพื่อสอดใส่ในรูลูกบิดที่บริเวณปลายคันทวน
4. หย่องบน ทำด้วยไม้เล็กๆสูงกว่านมเล็กน้อยโดยติดต่อลงมาจากช่องสายผ่านเพื่อหนุนสายให้ลอยเหนือนม
5. ตะพานหรือนมทำด้วยไม้เล็กๆเหลาเป็นทรงสามเหลี่ยมติดที่ด้านหน้าคันทวนต่อจากหย่องบนเรียงลำดับ ๙ นมเพื่อกดให้ได้เสียง
6. สายทำด้วยลวดทองเหลือง 4 เส้น โดยพันผูกจากลูกบิด แยกเป็นคู่ๆขึงขนานผ่านมายังหน้ากะโหลก ผ่านรูระบายผาดบน ? หย่องล่าง ? ซึ่งทำด้วยไม้เล็กเช่นเดียวกับหย่องบนติดที่หน้ากะโหลกเพื่อหนุนสายให้ผ่านนมและไปพันผูกที่หลักผูกสาย
7. หลักผูกสายทำด้วยโลหะหรือแผ่นไม้บาง เจาะรูผูกสายติดอยู่บริเวณด้านล่างของกะโหลก
หลักการดีด
ผู้ดีดนั่งท่าขัดสมาธิ ให้กะโหลกตั้งอยู่บนหน้าขาขวาและให้ปลายคันทวนชี้ไปทางซ้ายของผู้ดีด ใช้มือขวาจับไม้ดีดซึ่งทำด้วยเขาควายเหลาให้บางเรียวแหลม โดยผาดตามแนวของนิ้วชี้โผล่ปลายเล็กน้อย มีนิ้วหัวแม่มือคีบประกบกับนิ้วชี้ดีดบริเวณใกล้กับนมตัวสุดท้าย เสียงจะทุ้มไพเราะดี แต่ถ้าดีดใกล้รูระบายระบาย เสียงจะแหลม ในขณะเดียวกันใช้นิ้วชี้นางกลางและนิ้วก้อยของมือซ้าย กดสายลงตามช่องของนม เพื่อให้เกิดเสียงสูง-ต่ำตามที่ต้องการ
วิธีการดีดซึง
วิธีการดีดของซึงมี2อย่างคือ
1.การดีดที่ใช้ไม้ดีดดีดปัดลงข่างล่างอย่างเดียวซึ่งเป็นการดีดแบบดั่งเดิม
2.การดีดที่ใช้ไม้ดีดดีดปัดขึ้นลงสลับกัน ซึ่งจะได้ท่วงทำนองที่ไพเราะไปอีกแบบหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น